เป่าตามกฎ! ‘เว็บบ์’ แจงเหตุไม่ย้อนให้ประตู ‘ดิอาซ’

ฮาเวิร์ด เว็บบ์ หัวหน้าองค์กรเปา แสดงความผิดหวัง ต่อจังหวะ VAR สื่อสารพลาดริบประตู หลุยส์ ดิอาซ ปีก ลิเวอร์พูล ขณะเดียวกันยืนยัน การปล่อยให้เกมเล่นต่อ โดยไม่ย้อนกลับคำตัดสิน คือเรื่องที่ถูกต้องตามกฎ ฟีฟ่า

เว็บบ์ ปรากฎตัวกลางรายการ พร้อมเปิดใจถึงความผิดพลาดสำคัญจังหวะจับล้ำหน้า ดิอาซ ซึ่งเกิดขึ้นในเกม “หงส์แดง” บุกพ่าย ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ 2-1 เมื่อสองสัปดาห์ก่อน

“เราทุกคนผิดหวัง และไม่มีใครผิดหวังไปมากกว่าทีมงานผู้ตัดสินในวันนั้น พวกเขาภาคภูมิใจในอาชีพ และต่างต้องการสร้างประโยชน์ให้เกมฟุตบอล” เว็บบ์ เริ่มกล่าว

“เราเปิดเผยคลิปเสียง ซึ่งเป็นขั้นตอนที่ไม่เกิดขึ้นบ่อยนัก แต่เราต้องการแสดงให้ทุกคนเห็นถึงจังหวะผิดพลาดและเสียสมาธิของมนุษย์ ที่ค่อนข้างมีความสำคัญต่อเกม”

“คุณสามารถได้ยินจากคลิปเสียง ดาร์เรน อิงแลนด์ (หัวหน้าห้องVAR) แจ้งว่าเขากำลังเช็คล้ำหน้า และเขาก็ทำตามกระบวนการอย่างรวดเร็วมาก”

“บางครั้งเราได้รับเสียงวิจารณ์ว่าใช้เวลาตัดสินนานเกินไป เราจึงพยายามแก้ไขเรื่องนี้ แต่เราไม่เคยมองข้ามความถูกต้อง”

“อิงแลนด์ ลากเส้นล้ำหน้าตรง คริสเตียน โรเมโร่ และเมื่อถึงจุดนั้น ผมคิดว่าเขาไม่ทันได้เห็นว่าการตัดสินในสนามเป็นอย่างไร จึงแจ้งว่าการเช็คเสร็จสิ้น”

“เมื่อ ไซม่อน ฮูเปอร์ (กรรมการในสาม) ได้ยินแบบนั้น เขาจึงเข้าใจว่าการเช็คล้ำหน้าเสร็จสิ้นแล้ว และเป่าให้เกมแข่งกันต่ออย่างรวดเร็ว”

“ฮูเปอร์ ไม่รู้ถึงความผิดพลาดจนกระทั่งจบเกม ซึ่งผมคิดว่านั่นคือเรื่องดีแล้วเพราะทำให้เขาสามารถรักษาโฟกัสไปจนจบการแข่งขันได้”

ไมเคิ่ล โอเว่น ตำนานกองหน้าเป็นพิธีกร ยิงคำถามเพิ่มเติมถึงวิธีการป้องกันความผิดพลาด ซึ่ง เว็บบ์ ก็ยอมรับต้องมีการเปลี่ยนแปลงบางอย่าง

“ความผิดพลาดของมนุษย์ เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้กับทุกคน และมันก็เกิดขึ้นในเกมนั้น สิ่งที่เราต้องทำคือหาวิธีจัดการ เพื่อลดผลกระทบที่เกิดจากความผิดพลาด”

“หนึ่งในวิธีการ คือเราจำเป็นต้องทบทวนกระบวนการสื่อสารกันใหม่ เราต้องการให้ VAR, ผู้ช่วย และผู้ตัดสินในสนามสื่อสารกันอย่างชัดเจน”

“VAR แจ้งว่า ‘การเช็คเสร็จสิ้น’ นั้นยังไม่เพียงพอ เพราะมันเกิดคำถามว่าคุณกำลังพิจารณาจังหวะไหน? ดังนั้นคุณควรบอกด้วยว่า เป็นการเช็คประตู หรือเช็คล้ำหน้า”

“หากไม่มี VAR ประตูของ ดิอาซ ก็ยังจะไม่ได้ประตู แต่แน่นอนว่าเมื่อมี VAR แล้ว ย่อมเป็นหน้าที่ของเรา ในการป้องกันไม่ให้ความผิดพลาดลักษณะนี้เกิดอีก และเรากำหนดแนวทางใหม่ไว้หลายอย่างเพื่อทำแบบนั้น”

อดีตผู้ตัดสินวัย 52 ปีถูกถามเพิ่มเติม กรรมการในเกมดังกล่าว สมควรเป่าหยุดเกมและย้อนกลับไปให้ประตูแก่ ลิเวอร์พูล หรือไม่

“ความจริงแล้วไม่ใช่แค่แฟนบอล แต่ภายในเวลา 20 วินาทีหลังจากรู้ตัวว่าเกิดอะไรขึ้น ห้อง VAR ก็มีคำถามนี้เช่นกัน” เว็บบ์ เริ่มให้ตอบ

“ตอนนั้นห้อง VAR พิจารณาถึงการหยุดเกมเพื่อกลับคำตัดสิน แต่พวกเขารู้ว่ากฎของ ฟีฟ่า และ IFAB ไม่อนุญาตให้ทำ”

“กฎดังกล่าวถูกเขียนไว้ 7 ปีก่อน และตอนนั้นโลกฟุตบอลยังไม่มี VAR แต่ตอนนี้ เรามีประสบการณ์จากจังหวะปัญหาทั้งหลาย ซึ่งองค์กรผู้ออกกฎ สามารถใช้เพื่อพิจารณาปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้น”