พลาดซ้ำซาก เจ็บไปอีกเกม

ครั้งเดียวมันก็มากเกินพอแต่การพลาดถึง 2 หนในเกมเดียวคุณหมดสิทธิ์เรียกร้องหาชัยชนะไม่ว่าจะเหตุผลอะไรก็ตาม

การแจกโชคของแนวรับทั้ง เวอร์กิล ฟาน ไดคจ์ และ แอนดี้ โรเบิร์ตสัน อย่างละครึ่งทำให้ ลิเวอร์พูล ทิ้ง 2 แต้มทิ้งทั้งๆที่มีโอกาสปิดเกมชนะได้อยู่แล้ว

โดยเฉพาะครึ่งหลัง “หงส์” รูปเกมดีกว่าทันทีที่ เยอร์เก้น คล็อปป์ ส่ง ไรอัน กราเวนแบร์ค แทน ฮาร์วีย์ เอเลียตต์

ความคล่องตัวและพลิกบอลของ “กราฟ” ทำให้การเพรสของ ไบรท์ตัน มีปัญหา สร้างความแตกต่างได้อย่างชัดเจน

น่าเสียดายที่จุดพลิกผันที่ควรจะเป็น 3 แต้มของทีมเยือนหาก กราเวนแบร์ค ไม่ยิงลูกจ่อๆชนคาน

ถ้า 3-1 จบชัวร์ครับเนื่องจาก ณ เวลานั้น “นกนางนวล” เริ่มอ่อนแรงหันมาโยนยาวมากขึ้นและแน่นอนเสียบ่อยด้วย

จังหวะ “หงส์” โดน 2-2 ร็อบโบ้ ปล่อยลูกฟรีคิกผ่านหน้าตัวเองก็เรียบร้อยสิครับ ถึงแม้เข้าใจได้ว่าบอลเข้าเหลี่ยมขาขวาข้างไม่ถนัดแต่มันก็ต้องทำอะไรซักอย่าง เลยตัวไปก็เท่ากับหลอกเพื่อนตัวเอง เรียบร้อยสิครับ

ที่พูดถึงไม่ได้….อีกแล้วและอีกแล้วกับการให้บอลไม่ฉลาด (เลี่ยงใช้คำว่าโง่) ของ ฟานไดจค์

คิดอะไรและตั้งใจจะทำอะไรถึงเลือกจ่ายยัดให้ แม็ค อัลลิสเตอร์ ที่รายล้อมไปด้วยผู้เล่น ไบรท์ตัน ถึง 3 คน

ผมเอาหัวเป็นประกันว่า Vvd ก็รู้ตั้งแต่ก่อนออกบอลว่า AMA ไม่มีทางพลิกหรือทำอะไรกับบอลได้แน่ๆและเดี๋ยวก็ต้องเบิ้ลบอลกลับมา

แต่ขอให้ได้เล่นสั้นไว้ก่อน ให้โลกรู้ว่า ลิเวอร์พูล build up บอลสั้นตามเทรนด์

จุดประสงค์มีแค่นั้น!!

แล้วมันคุ้มเสียไหมครับ ในเมื่อบทเรียนเกมพบ บอร์นมัธ ที่จ่ายให้ เทรนต์ ก็แบบนี้เลย

นอกจาก “พี่ยักษ์” เลือก choice นี้พลาดแล้วน้ำหนักบอลยังเบาไปทำให้ AMA เน็ตค้างเหมือนยืนรอบอลจนถูกตัดได้

ช่วงพักครึ่ง ไมเคิ่ล โอเว่น และ เชส ฟาเบรกัส วิเคราะห์ทำกราฟฟิคว่า VvD มีทางเลือกออกบอลยาวให้ทั้ง โม ซาลาห์ และ หลุยส์ ดิอาซ ที่พร้อมเล่นมากกว่า

ผมขอยืนยันอีกครั้งว่า “หงส์” ไม่จำเป็นต้องเลือกเล่นแนวทางนี้ในเมื่อมันไม่เหมาะ ไม่ต้องกลัวตกเทรนต์หรือไม่เทห์ครับ

จ่ายออกที่ว่างด้านข้าง มี TAA มี​ โซโบ ที่วางบอลยาวได้หรือแม้กระทั่งตัว VvD เองก็จ่ายขวางให้ โม บ่อยๆ

ทุกวันนี้ดูบอลมันน่าเบื่อและน่ารำคาญที่ต้องโดนชาวบ้านยิงนำก่อนทุกที เพิ่งเตะ 8 เกมโดน 1-0 ไปซะ 5

ในวันที่พลาดชัยชนะผมกลับชอบ ดาร์วิน นูนเญซ ที่ยิ่งเล่นแสดงออกถึงความเป็น team player มากขึ้นเรื่อยๆ

ลูกตีเสมอ 1-1 ก็มาจากการไม่หวงบอลในขณะที่ลูกยิงชนคานของ “กราฟ” ผมขอปรบมือการไหลน้ำหนักและจังหวะพอดีกับการวิ่งของ โซบอสไล

เห็นการเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นของ “หนูน” มันสวนทางกับ หลุยส์​ ดิอาซ​ ที่ยังแก้ไม่หายกับการบ้าเลี้ยง

แกมีความคะนองเมื่อเลี้ยงหนีคู่แข่งได้ซัก 1 หนแกติดลมอยากเบิ้ลอีกรอบโดยไม่สนใจสภาพแวดล้อมรอบกาย เสียหายถึงจังหวะเพื่อนร่วมทีม ไม่มีการทำชิ่งหรือจ่ายก็จ่ายตอนจวนตัว

ครับท้ายที่สุดเราก็ต้องมาพูดถึงเกมรับที่วันนี้นอกจากจะตกเป็นฝ่ายตามหลัง (อีกแล้ว) ส่วนครึ่งหลังมาโดนตอนที่กำลังเหนือกว่า

เป็นบทเรียนที่ไม่ต่างอะไรกับหายใจทิ้งไปวันๆ แทบไม่มีประโยชน์เลยหากยังปล่อยให้มันเกิดขึ้นจนเป็นนิสัย

พักสมองพักเบรกทีมชาติกลับมาโปรแกรมเริ่มเบาขึ้น หวังว่าจะได้เห็นน้อง “ออลนิว” ลิเวอร์พูล กันซักทีนะครับ…

สถิติ สถิติ สถิติ

5 ประตูที่ ดาร์วิน นูนเญซ แอสซิสต์ในพรีเมียร์ลีกยิงโดย โม ซาลาห์ ทั้งหมด เป็นสถิติแอสซิสต์ให้นักเตะคนเดิมยิงมากที่สุดในประวัติศาตร์พรีเมียร์ลีกแล้ว

โม ซาลาห์ มีส่วนร่วมกับ 14 ประตูใน 13 เกมพรีเมียร์ลีกหลังสุดที่พบกับ ไรท์ตัน โดยยิง 8 ลูกและจ่ายอีก 6 มีเพียง แมนฯยูฯ (14) เท่านั้นที่ “อิยิปต์คิง” ทำได้เท่ากัน